Saturday, February 9, 2013

Posted by GU On 8:09 PM
โรคเส้นดำ (Black stripe)
 

สาเหตุ
              เกิดจากเชื้อรา  Phytophthora  botryosa  chee, P. palmivora (Butl.) Butl.
ลักษณะอาการ 
 เหนือรอยกรีดเป็นรอยช้ำ ต่อมาเป็นรอยบุ๋มสีดำหรือสีน้ำตาลดำตามแนวยาวของลำต้น  เมื่อเฉือนเปลือกบริเวณรอยบุ๋มสีดำ จะเห็นลายเส้นสีดำบนเนื้อไม้ 
                      และอาจลุกลามลงใต้รอยกรีด  ถ้าอาการรุนแรง  เปลือกบริเวณที่เป็นโรคปริเน่า  มีน้ำยางไหล  เปลือกเน่าหลุดออกมา  ถ้าเชื้อเข้าทำลายไม่รุนแรง 
                      เปลือกงอกใหม่จะเป็นปุ่มปม
การแพร่ระบาด
   เชื้อบนฝักและใบที่เป็นโรคถูกชะล้างโดยน้ำฝนลงมาที่หน้ากรีด  พบระบาดรุนแรงเมื่อกรีดยางติดต่อกันในฤดูฝนโดยไม่มี การป้องกันรักษาหน้ากรีด 
                      โดยเฉพาะเมื่อความชื้นสูงกว่า  90%  หน้ากรีดจะเปียกอยู่ตลอดเวลา  เหมาะต่อการขยายพันธุ์ของเชื้อ
พืชอาศัย
          เชื้อรา  P.palmivora  สามารถเข้าทำลายพืชอื่นได้หลายชนิด  เช่น  มะละกอ  แตงโม  ส้ม  ทุเรียน  พริกไทย  โกโก้  มะพร้าว  ยาสูบ  ส่วนเชื้อรา  P.botryosa 
                      สามารถเข้าทำลาย  ทุเรียน  ส้ม  และกล้วยไม้ได้
การป้องกัน
        1. ไม่ควรปลูกพืชอาศัยเป็นพืชแซมยาง
                      2.หลีกเลี่ยงการเปิดกรีดยางในฤดูฝน  ในพื้นที่ที่มีโรคระบาดรุนแรง
                      3.
ระยะที่มีโรคใบร่วงระบาดใช้สารเคมีป้องกันโรคที่หน้ากรีด
 
สารเคมี อัตราการใช้ วิธีการใช้
ชื่อสามัญ ชื่อการค้า %สารออกฤทธิ์
เมทาแลกซิล
(metalaxyl)
เอพรอน
 
35% SD
 
7-10 กรัมต่อน้ำ  1  ลิตร ทาพื้นที่หน้ากรีดหรือทาเหนือรอยกรีดภายใน  12  ชั่วโมง  หลังการกรีดยางทุกสัปดาห์
ฟอสเอทธิล  อลูมินั่ม
(fosetyl-Al)
อาลีเอท
 
80% WP
 
8-10 กรัมต่อน้ำ  1  ลิตร
                       4. ถ้าพบอาการที่หน้ากรีด  ต้องเฉือนส่วนที่เป็นโรคออกก่อนแล้วทาด้วยสารเคมี 
สารเคมี อัตราการใช้ วิธีการใช้
ชื่อสามัญ ชื่อการค้า %สารออกฤทธิ์
เมทาแลกซิล
(metalaxyl)
เอพรอน
 
35% SD
 
14 กรัมต่อน้ำ  1  ลิตร ผสมสารจับใบ  2  ซี.ซี. พ่นหรือทาหน้ากรีดยางทุก 
5-7
วัน  อย่างน้อย  4  ครั้ง
ฟอสเอทธิล  อลูมินั่ม
(fosetyl-Al)
อาลีเอท
 
80% WP
 
20-25 กรัมต่อน้ำ  1  ลิตร
ออกซาไดซิล+แมนโคเซบ
(oxadixyl+mancozeb)
แซนโดแฟน-เอ็ม 10+56% WP 40-60 กรัมต่อน้ำ  1  ลิตร

0 comments:

Post a Comment